เมื่อพูดถึงแสง กับ บรรยากาศ แล้ว 2 สิ่งนี้เป็นสิ่งที่มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน
ยากที่จะแยกขาดออกจากกันได้ สถานที่ไหนที่มีบรรยากาศที่ดี ก็มักจะเกิดจากการออกแบบแสง
หรือสภาพแวดล้อมทางแสงที่ดีด้วยนั่นเอง
ในครั้งนี้ จึงอยากจะหยิบยก ตัวอย่างงานออกแบบในประเทศไทย มีการการออกแบบแสงที่น่าสนใจ
และสอดรับกับรูปแบบของพื้นที่การใช้งานของสถานที่นั้นๆ รวมทั้งหมด 3 โครงการ มาให้ดูกันครับ
เริ่มจาก The Barai, Spa Resort
ออกแบบโดย คุณเมธา ที่มีคอนเซปของการออกแบบ ที่ต้องการให้ผู้ที่มาเข้าพักใน The Barai
รู้สึกเหมือน ได้หลุดเข้ามาพักผ่อนในอีกโลกหนึ่ง ที่แตกต่างจากชีวิตประจำวันที่เราพบเจอ
การออกแบบบรรยากาศภายใน จึงเน้นความประณีตของแสงที่ทำงานกับสเปซ (Space) ที่ชักชวนอารมณ์ให้เพริดพราย
ไปกับความหรูขรึมของอาณาจักรขอมอันรุ่งเรืองในอดีต รู้สึกเป็นส่วนตัว ผ่อนคลาย และสอดรับกับรูปแบบการให้บริการสปา
ที่มีขั้นตอนที่ประณีต และละเอียดอ่อน
การเจาะช่องแสง และการให้แสงที่ส่งเสริมให้เกิดบรรยากาศของการพักผ่อน ที่ผ่อนคลาย
บริเวณทางเดินไปสู่พื้นที่บริการสปา ที่ใช้ดวงไฟ Up Light วางเป็นจุดๆ เว้นระยะห่างเท่าๆกันเป็นจังหวะ
ในขณะที่สภาพแสงรอบด้านมืดหมด ทำให้เมื่อเดินผ่านบริเวณนี้ จะทำให้เราต้องมีสติในการเดิน และค่อยๆเดินผ่านแสงไฟที่สาดเข้าใส่ผนังเป็นจังหวะอย่างช้าๆ ไปโดยปริยาย ถือว่าเป็นจุดเชื่อมต่อทำให้ผู้เข้ามาใช้บริการ ได้ใช้เวลาในการเดินผ่านทางเดินนี้ ในการรวบรวมสติ อยู่กับตัวเองในปัจจุบันขณะอย่างเป็นรูปธรรม
บริเวณปลายทางจะเป็นข่องเปิดที่รับแสงเข้ามาอย่างเต็มที่ เป็นแสงสว่างจ้า
ที่ขัดแย้งกับสภาพบรรยากาศระหว่างทางเดิน ที่มีความสลัวมากๆ
ทำให้เกิดการกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกเบิกบาน และสดชื่น
โครงการที่ 2 Mansion 7
เป็นการผสมผสานระหว่าง Boutique Mall กับ Haunted Thrill Park จนกลายมาเป็น Boutique Thriller Mall
โดยเน้นการสร้างบรรยากาศภายในให้รู้สึกน่ากลัว และวังเวงด้วยเทคนิคการให้แสง และสีของแสงที่สลัว
มีการผสมสีของแสงให้ เกิดมิติของพื้นที่ ดูลึกลับ และน่าค้นหา
มีการใช้อุปกรณ์ฉายภาพ และจอรับภาพอื่นๆ เพื่อช่วยในการสร้างบรรยากาศให้เกิดความสมจริงมากยิ่งขึ้น
แสงที่จะสว่าง เฉพาะพื้นที่บริเวณร้านขายของ จำลองสภาพบรรยากาศเหมือนเวลากลางคืน
มีการจำลองลักษณะของแสงจากพระจันทร์ ที่ส่องผ่านต้นไม้ในเวลากลางคืน
สาดลงมาที่พื้น และบริเวณทั่วไปที่ผู้ที่เข้ามาใช้งาน สามารถสัมผัสได้อย่างใกล้ชิด
โครงการที่ 3 Bar B Q Plaza สาขา Central World
ซึ่งเป็นตัวอย่างงานออกแบบสุดท้าย
โดยที่สาขานี้ เป็นสาขาที่ทาง Bar B Q วางไว้ให้เป็น Flagship Store และมีแนวความคิดในการออกแบบให้เป็น เหมือนพื้นที่Outdoor คือจำลองสภาพบรรยากาศของการทานอาหารประเภทปิ้งย่าง ในบรรยากาศที่สนุกสนาน กลางแจ้ง
บริเวณฝ้าเพดาน ใช้วัสดุลูมินา เซลลิ่ง (Lumina Ceiling)
ที่สามารถกระจายแสไฟ Natural White ที่ซ่อนอยู่ และให้เอฟเฟค
เหมือนเป็นบรรยากาศของห้องที่มีหลังคากระจกอยู่ด้านบน
การตกแต่งส่วนอื่นๆ ใช้ลวดลายกราฟิก และการประดับโคมไป
ที่เพิ่มให้เกิดบรรยากาศ การรับประทานอาหารที่มีสีสัน และสนุกสนานมากยิ่งขึ้น
จากโครงการและงานออกแบบ ที่ยกตัวอย่างขึ้นมาเล่าทั้ง3 ตัวอย่างนี้ เป็นตัวอย่างงานออกแบบ
ที่สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า แสงเป็นองค์ประกอบหนึ่ง และเป็นองค์ประกอบสำคัญ
ที่ช่วยส่งเสริมอารมณ์ บรรยากาศให้แก่สภาพแวดล้อมภายในรวมถึงสถาปัตยกรรมนั้นๆ
ให้มีคุณค่าและความน่าสนใจเป็นอย่างมากจริงๆครับ
หากท่านผู้ติดตามท่านไหน มีเรื่องที่สนใจและอยากให้ทางเราเขียน
สำหรับครั้งนี้ต้องขอลาไปก่อน
สุขสันต์ วันที่แสงอยู่รอบๆตัวเราครับ