2 มี.ค. 2554

Lighting Design Trends 2011- 1/2

10 เทรนด์ แสง
Lighting Design Trends 2011 - chapter1/2

สวัสดีครับท่านผู้อ่าน เผลอแวบเดียวเราก็ขึ้นสู่เดือนที่ 3 ของปี 2011 กันแล้ว เวลาและวารีไม่เคยรอคอยใคร เรื่องแนวทางการออกแบบไฟก็ย่อมเปลี่ยนตามเวลาเช่นกันครับ ฉะนั้นคงจะไม่สายไปถ้าวันนี้ผมจะนำเรื่องแนวโน้มของการออกแบบแสงในของปี 2011 มาแชร์ให้ทุกท่านได้ทราบกัน อันที่จริงถ้าพูดถึงเทรนด์ในเรื่องการออกแบบตกแต่งภายในแล้ว ปกติในบ้านเราจะช้ากว่าทางทวีปยุโรปและอเมริกา 1-2 ปีเลยหละครับ (ความไวจะแตกต่างกันเล็กน้อย ขึ้นกับประเภทธุรกิจด้วยว่าเป็น บ้าน, คอนโด, หรือร้านค้า ฯลฯ) จึงเรียกว่าถ้าได้นำไปปรับใช้ตอนนี้ก็ถือว่าทำได้เร็วก่อนใครในประเทศไทยแน่นอน แต่ต้องระวังวิธีการนำไปใช้ให้เหมาะสมกับกาลเทศะด้วยหละครับ
ในปี 2011 เรียกได้ว่าเป็นปีที่ผู้คนจะได้ตกแต่งและแสดงฝีมือการออกแบบไฟในบ้านด้วยตนเอง เนื่องด้วยสภาพเศรษฐกิจ โดยในภาพรวมแล้วคนจะเลือกวิธีการตกแต่งที่มีขั้นตอนที่ทำให้รู้สึกว่าไม่ต้องดูแลรักษามันอีกเลย ด้านความงามจะนิยมงานออกแบบที่ดูคลาสสิกไร้กาลเวลา แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องให้ความรู้สึกทันสมัย และเหมาะสมกับการใช้งานด้วยในเวลาเดียวกันด้วย ว่าแล้วก็ไปเคานท์ดาวน์กันทีละเทรนด์เลยดีกว่าครับ

เทรนด์อันดับที่ 10 
ดวงโคมแบบแก้วเป่าที่นำมาออกแบบใหม่ให้ทันสมัยขึ้น ด้วยลูกเล่นและการใช้สี  
(The Updated Classic – Beautiful Hand-blown Glass in Daring New Style and On-Trend Colors)


Italian Murano Glass Floor Lamp In Noa Series By Lucente (B10 Lighting House)

Babol de Majo Illuminazione

Lown Glass Pendant Lamp By Wolf Art Glass (C19 Lighting House)

เป็นการใช้แรงบันดาลใจจากงานศิลปะคลาสสิกนำผสมผสานกับเส้นสายของความงามร่วมสมัย โดยการใช้วัสดุอย่างแก้วเป่าจากเกาะมุราโน่ (Murano, เมืองเวนิซ ประเทศอิตาลี) และนำรูปทรงคลาสสิกนั้นมาออกแบบรายละเอียดให้เป็นแบบสมัยใหม่ สร้างสัดส่วนใหม่ หรือทำสีให้เข้าเทรนด์ 2011 อย่างสีสดใส, สีควันบุหรี่ เป็นต้น


เทรนด์อันดับที่ 9
แชนเดอเลียขนาดเล็ก (Chandelets)


Bubble in space by Lasvit (Lighting House)

'LIIN' , Crystal Chandalet by Italamp (Lighting House)

Chandalet คือแชนเดอเลียขนาดเล็กที่ไม่จำเป็นต้องระโยงรยางค์และแขวนบริเวณจุดปลายสายตาเพียงอย่างเดียว แต่อาจจะเป็นลูกปัดแก้วหรือวัสดุอื่นๆ ที่จัดวางโดยเล่นกับพื้นที่แนวตั้งเพื่อช่วยเปลี่ยนอารมณ์ของห้องให้เกิดสไตล์ที่ชัดเจนมากขึ้น


เทรนด์อันดับที่ 8
ดวงโคมที่มีสไตล์โดดเด่น ผลิตให้โดยเฉพาะรายบุคคลตามความต้องการของเจ้าของ  (Standout Customization and Style)

                                                Colour by Daniel Rybakken and Andreas Engesvik

 

 

ถ้าคุณเป็นเจ้าของบ้าน หรือนักออกแบบมีความเป็นตัวของตัวเองสูง อยากได้งานออกแบบที่เป็นชิ้นหรือชุดเดียวในโลกหละก็...ทำเลยครับ เทคโนโลยีและต้นทุนการผลิตในตอนนี้สามารถสนับสนุนไอเดียที่แหวกแนวของคุณได้แล้ว อย่างเช่นใช้แผนอะคลิลิกใสและขุ่นสีๆมาวางซ้อนกันส่องไฟจากด้านหลัง(ตามภาพ) แค่นี้ก็ได้งานที่ไม่ซ้ำใครแล้ว หรือถ้าไม่อยากเหนื่อยเอง ลองเข้ามาหาเราที่ Lighting House สิ เราก็รับผลิตแบบ Customization กับเค้าเหมือนนะครับ

มาที่เทรนด์อันดับที่ 7
ดวงโคมที่มีรูปร่างจากธรรมชาติ และหรือวัสดุธรรมชาติ  
(Contemporary Organic) 

 Ochre (Lighting House)
"Spark" Swarovski Chain Lighting by Crystal Palace (Lighting House)

 W101 by Claesson Koivisto Rune for Wästberg 

ทำจาก DuraPulp (แผ่นไม้รีไซเคิลผสมแป้ง)

Rosa by Lasvit (Lighting House)
ดวงโคมที่ออกแบบให้มีรูปร่าง รูปทรง หรือลวดลายจากธรรมชาติ เช่น ดอกไม้, ต้นไม้, น้ำแข็ง, หรือองค์ประกอบทางธรรมชาติแปลกประหลาดอื่นๆ เป็นต้น รวมถึงการใช้สีที่เหมือนธรรมชาติ วัสดุธรรมชาติรวมถึงผ้าขนสัตว์ ฟาง ลินิน กำลังฮิตติดเทรนด์เช่นเดียวกันกับการออกแบบตกแต่งสไตล์ธรรมชาติที่ให้ความรู้สึกสงบ

ในครั้งนี้ขอนำเสนอเพียงแค่ 4 อันดับท้ายก่อนนะครับ ลองหยิบเทรนด์ที่ผมเล่ามา ไปเป็นไอเดียในการเลือกซื้อโคมไฟที่ถูกใจคุณกันได้นะครับ
สำหรับวันนี้ Lighting House จะขอลาไปก่อนครับ แล้วพบกับเทรนด์ลำดับที่ 6 ไล่ไปถึงลำดับ 1 ใน ตอนหน้า ใครมีอะไรสงสัย หรืออยากแชร์ idea กับเรา ก็ comment หรือติดต่อกันเข้ามาได้ตลอดครับ




Credit ภาพและเรื่อง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น